"สีย้อมไม้" เป็นสีที่มีความสำคัญกับงานไม้ภายในบ้านของเรา ไม่ว่าจะเป็นวงกบไม้ พื้นไม้ ประตูไม้ หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ไม้ โดยเฉพาะกับการทาเพื่อซ่อมแซมให้งานไม้ที่ดูเก่าดูโทรม กลับมามีสีสันสดใสเหมือนได้ของใหม่
วันนี้ Homeenrich มีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับสีย้อมไม้ไม้ฝาก มาดูวิธีการเลือกสีย้อมไม้ที่เหมาะสมกันดีกว่า ว่างานแบบไหนเหมาะกับสีย้อมไม้แบบไหนกันบ้าง
ประเภทของสีย้อมไม้
โดยทั่วไปแล้วเราสามารถแบ่งประเภทของสีย้อมไม้ออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ สีย้อมไม้สูตรน้ำ และสีย้อมไม้สูตรน้ำมัน
1. สีย้อมไม้สูตรน้ำ
สีย้อมไม้สูตรน้ำ เป็นสีย้อมไม้ที่ไม่ต้องผสมอะไรเพิ่มก็สามารถนำไปใช้ได้เลย หรือบางยี่ห้อก็อาจให้ผสมน้ำเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อย สีย้อมไม้สูตรน้ำนี้เมื่อทาลงไปบนงานไม้แล้วเนื้อฟิมล์จะมีความคงทนยึดเกาะกับไม้ได้ดีกว่าสูตรน้ำมัน แห้งเร็ว และไม่มีกลิ่นฉุน เป็นสีที่มีความปลอดภัยสูง เหมาะกับงานภายในมากกว่างานภายนอก และเป็นสีที่นิยมนำไปใช้กับงานของใช้หรือของเล่นเด็ก ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ไม่มีสารตะกั่ว ปรอท หรือโลหะหนักเจอปน ซึ่งอาจมีอันตรายต่อสุขภาพของเด็กๆ โดยเวลาทาอาจต้องทาทับประมาณ 3-4 รอบถึงจะเห็นสีหรือได้สีตามที่ต้องการ
2. สีย้อมไม้สูตรน้ำมัน
สีย้อมไม้สูตรน้ำมันเป็นสีที่ต้องเอามาผสมกับทินเนอร์ก่อนใช้งาน โดยส่วนใหญ่อัตราการผสมจะอยู่ที่ 10% ต่อปริมาณสีที่ใช้ มีกลิ่นฉุนรุนแรง แต่เมื่อทาสีลงบนงานไม้แล้วจะซึมลึกได้ดีกว่าสูตรน้ำ ดังนั้นสีย้อมไม้สูตรน้ำมันจึงเหมาะกับงานทั้งภายในและภายนอก เนื่องจากมีความทนทานแต่แสงแดด ลม และฝนได้ดีกว่า เวลาทาสีก็จะไม่ค่อยเพี้ยนไปจากต้นแบบ ทาทับเพียง 2 ครั้งก็จะได้สีไม้สวยๆตามที่ต้องการ แต่ข้อเสียของสีย้อมไม้สูตรน้ำมันคือ มันแห้งช้ากว่าแบบน้ำ และต้องผสมทินเนอร์ของสียี่ห้อนั้นๆเท่านั้นเพื่อเจือจางสีก่อนจึงจะสามารถเอาสีมาทาได้
การเลือกสีย้อมไม้นอกจากเราจะเลือกความแตกต่างระหว่างสูตรน้ำกับสูตรน้ำมันแล้ว เรายังต้องเลือกความเงาด้านของสีที่เราจะใช้ด้วย เพื่อเวลาทาจะได้เห็นลายไม้สวยๆอย่างที่ต้องการ โดยสีย้อมไม้จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. สีย้อมไม้แบบใส
เป็นสีย้อมไม้แบบโปร่งแสง นิยมใช้ในงานไม้ที่ต้องการโชว์ความสวยงามหรือความคลาสสิคของไม้ดั้งเดิม ผลิตจากผงสีและเรซิ่น จึงเหมาะกับการใช้ทางานไม้ที่อยู่กลางแจ้งได้ดี
2. สีย้อมไม้แบบเงา
เป็นสีย้อมไม้แบบกึ่งโปร่งแสง คือทาลงไปแล้วก็จะมีสีอยู่บ้าง แต่ก็ยังสามารถโชว์ความสวยงามตามธรรมชาติของลายไม้ได้อยู่ นิยมใช้ทาทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะการทาเฟอร์นิเจอไม้จะนิยมใช้สีย้อมไม้แบบเงานี้มาก ป้องกันการซีดจาง กันน้ำ กันแดด กันความชื้นได้ดี
3. สีย้อมไม้แบบกึ่งเงา
สีย้อมไม้แบบนี้ เป็นแบบกึ่งเงากึ่งด้าน โดยนิยมใช้ทาพวกวงกบ ผนัง ประตู หน้าต่าง สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก ป้องกันแสงแดดได้ดี และมีส่วนผสมของสารกันเชื้อราผสมเข้าไปด้วย
นี่ก็เป็นประเภทและการเลือกใช้สีย้อมไม้เบื้องต้น ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น เลือกให้เหมาะสมกับงานที่ใช้ ส่วนจะเป็นยี่ห้อไหนก็ต้องลองเปรียบเทียบสีสัน คุณสมบัติ และราคากันเอาเอง ราคาไม่แตกต่างกันมาก ขอแค่เลือกให้ถูกใจเจ้าของบ้านก็พอแล้ว
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น