การกู้ซื้อบ้าน ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คนส่วนใหญ่ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองต้องทำกัน บางครั้งการกู้ซื้อบ้านอาจจะไม่เป็นปัญหาสำหรับบางคน ที่มีเครดิตดี มีสภาพคล่องทางการเงินเยอะ หรือมีเงินเก็บอยู่พอสมควรแล้ว แต่กับบางคนที่มีเงินไม่มาก หลักทรัพย์อื่นๆไม่มี แถมเครดิตทางการเงินยังไม่ค่อยดีอีก การกู้เงินเพื่อซื้อบ้านก็คงเป็นเรื่องที่อยากพอสมควร
แต่ในเมื่อจำเป็นต้องกู้เงินซื้อบ้านเพื่อทำตามความฝันแล้ว เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องกู้เงินให้ผ่านกันดีกว่า ว่าธนาคารหรือสถาบันอื่นๆที่จะให้เราก็้เงินนั้นเค้าดูอะไรกันบ้าง แล้วเราต้องเตรียมตัวยังไงเพื่อให้การกู้เงินซื้อบ้านของเราครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี พูดง่ายๆก็คือ กู้เงินให้ผ่านนั่นเอง
เครดิตการเงินต้องดี
เรื่องที่เราควรเตรียมตัวไว้อันดับแรกก็คือ เรื่องเครดิตทางการเงินของเรา หรือที่เราเรียกว่า "เครดิตบูโร" คือทำยังไงก็ได้ให้มีหนี้ที่เราต้องจ่ายอยู่ในเครดิตบูโรให้น้อยที่สุด เพราะธนาคารหรือสถาบันทางการเงินเค้าจะเอาข้อมูลจากเครดิตบูโรนี่แหละไปพิจารณาดูว่า เรามีหนี้ต้องชำระต่อเดือนเท่าไร บวกกับเงินที่ยื่นกู้มาแล้วมันเกินกว่าที่ทางธนาคารกำหนดหรือไม่
โดยส่วนใหญ่แล้วจะให้ค่าผ่อนบ้านต่อเดือนไม่เกิน 40% ของเงินที่เหลือจากการหักหนี้อย่างอื่นออกไปหมดแล้ว เช่น สมมุติว่าเรามีเงินเดือน 20,000 บาท เราต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิตเดือนละ 3,000 บาท เงินที่เหลือก็จะเท่ากับ 20,000 - 3,000 = 17,000 บาท คิดที่ 40% จะเท่ากับ 6,800 บาท หากเราขอยื่นกู้ซื้อบ้านไปแล้วต้องผ่อนชำระอีกเดือนละ 6,000 บาท ทางธนาคารก็สามารถอนุมัติเงินให้กับเราได้ เพราะเงินที่ต้องชำระคือ 6,000 บาท น้อยกว่าเงินขั้นต่ำ 40% ที่ทางผู้ให้กู้กำหนดไว้ แต่นี่ก็มองในมุมของทางเครดิตบูโรเท่านั้นนะครับ การจะปล่อยกู้นั้นอาจยังมีปัจจัยอื่นประกอบเพิ่มเติมอีก
เงินออมในบัญชีต้องสวย
เงินที่ค้างอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ของเราก็สำคัญเช่นกัน โดยทางผู้ให้กู้ก็จะขอดู Statement หรือการหมุนเวียนเงินในบัญชีของเรา ประกอบกับหลักฐานเงินเดือนของเราว่ามันสมเหตุสมผล ควรที่จะให้กู้หรือไม่ เพราะฉะนั้นเราก็ควรมีเงินอยู่ในบัญชีให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ขอให้มีเก็บไว้อย่างน้อยๆ 1 ใน 3 ของเงินเดือนในแต่ละเดือนก็ยังดี แต่ต้องเป็นอย่างนี้สม่ำเสมอนะครับ ไม่ใช่ทำได้แค่ 1-2 เดือนอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ทำตัวเลขในบัญชีให้สวยเข้าไว้ เดี๋ยวดีเอง
ประวัติการชำระหนี้อย่าให้เสีย
หากใครมีหนี้ในระบบเยอะๆ พวกบัตรเครดิต บัตรผ่อนสินค้า หรือบัตรกดเงินสดเยอะ แล้วต้องผ่อนจ่ายชำระเงินในทุกๆเดือน ควรจะจ่ายหนี้บัตรต่างๆเหล่านี้ให้ตรงเวลาตามที่กำหนด อย่าปล่อยให้จ่ายล่าช้าเด็ดขาด การจ่ายล่าช้านอกจากจะทำให้เสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้เสียเครดิตในสายตาผู้ให้กู้อีกด้วย คงไม่มีผู้ให้กู้คนไหนอยากปล่อยกู้กับคนที่จ่ายเงินล่าช้าเป็นแน่ เพราะฉะนั้นพยายามจ่ายหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินต่างๆให้ตรงเวลา มีเยอะจ่ายเยอะ มีน้อยจ่ายน้อย แต่ขอให้จ่าย ทำให้เป็นวินัยตั้งแต่วันนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการกู้เงินซื้อบ้านในอนาคต
ถ้าเป็นไปได้ปิดบัตรเครดิตซะ
ที่ว่าปิดบัตรไม่ใช่ว่าให้เลือกใช้บัตรเครดิตนะครับ ใช้ได้แต่ขอให้ชำระหนีบัตรให้หมดก่อนยื่นขอกู้เงินซื้อบ้านสัก 6 เดือน เพื่อเป็นการล้างหนี้สิ้นในเครดิตบูโรออกให้สะอาด ผู้ให้กู้จะได้มั่นใจว่าเราไม่มีภาระหนี้สินอื่นๆค้างอยู่ จะได้ยินดีปล่อยเงินกู้ให้กับเราง่ายๆ อย่าลืมนะครับ ปิดบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน
หาผู้กู้ร่วมซะ เพิ่มโอกาสกู้เงินผ่าน
อีกวิธีที่จะช่วยให้เปอร์เซ็นการกู้เงินซื้อบ้านผ่านเพิ่มขึ้นก็คือ "การหาผู้กู้ร่วม" โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ให้กู้ ธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้น จะอนุญาตให้ผู้ร่วมกู้เป็นญาติสนิทของเราเท่านั้น คือ เป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ร่วมสายเลือด หรือเป็นสามี ภรรยา ลูก เท่านั้น อย่างกรณีที่เป็นภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสผู้ให้กู้ก็อาจจะไม่อนุมัติเงินกู้ก็ได้ ต้องดูปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย
อีกเรื่องที่ลืมไม่ได้ก็คือ ผู้กู้ร่วมนั้นต้องเข้าใจให้ดีด้วยว่า เมื่อร่วมกู้กันแล้ว ก็เท่ากับว่าต้องร่วมเป็นหนี้ด้วยกัน ร่วมใช้หนี้ในอัตราส่วนเท่าๆกัน พูดง่ายๆก็คือ หากกู้ร่วม 2 คนก็ต้องช่วยกันจ่ายคนละครึ่ง เพราะฉะนั้นหากจะกู้ร่มกับใครก็ต้องคิดให้ดีด้วย อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ คือ ผู้กู้ที่เป็นคนกู้หลักอย่างน้อยต้องมีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป ถึงจะกู้ร่วมได้นะครับ ยังไงซะการกู้ร่วมนั้นเป็นการเพิ่มโอกาสการกู้เงินซื้อบ้านให้สำเร็จมากขึ้น หากใครไม่มั่นใจในกำลังทรัพย์และเครดิตของตัวเองแล้ว ควรรีบไปหาผู้กู้ร่วมด่วนเลยครับ
นี่ก็เป็นหลักการพิจารณาที่เราควรเตรียมการเอาไว้ก่อนที่จะตัดสินใจก้าวเท้าไปขอกู้เงินเพื่อซื้อบ้านกับธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินอื่นๆ นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาอาจมีปัจจัยอื่นๆเข้ามาเสริมอีก เช่น ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ภาวะการเงินของธนาคารที่ยื่นกู้ อัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการกู้เงินที่เปลี่ยนไป สิ่งเหล่านี้ก็อาจเป็นปัจจัยที่อาจทำให้เรากู้เงินซื้อบ้านไม่สำเร็จได้ ยังไงซะ Homeenrich ก็ขอให้คนที่ต้องการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านทุกคน กู้ได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ครับ
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น