เคล็ดลับการเลือกผ้าม่านให้สวย ให้เป็น ก่อนสั่งติดตั้งผ้าม่าน


ผ้าม่านสวยๆ

ผ้าม่านสวยๆก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำหรับใช้ตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดี นอกจากติดตั้งผ้าม่านเพื่อให้บ้านดูสวยงามแล้ว เรายังสามารถใช้ประโยชน์จากผ้าม่านได้อีกมากมาย เช่น ใช้ป้องกันความร้อนและแสงแดดจากภายนอก , ใช้ป้องกันฝุ่นละออง , ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้คงที่ , ช่วยสร้างบรรยากาศน่าอยู่ภายในบ้าน เรียกได้ว่าการติดตั้งผ้าม่านภายในบ้านนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้



หากเราไม่มีความรู้ความชำนาญในการตัดเย็บแล้ว การที่เราจะทำผ้าม่านเพื่อติดตั้งเองก็ดูจะเป็นเรื่องยากไปสักหน่อย ดังนั้นเราจึงต้องใช้บริการจากบริษัทที่รับติดตั้งผ้าม่านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งบางครั้งหากเราไม่มีความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งผ้าม่านเลย ก็อาจจะถูกเอาเปรียบจากร้านที่รับติดตั้งผ้าม่านได้ เพราะฉะนั้นวันนี้ Homeenrich มีเคล็ดลับการเลือกและติดตั้งผ้าม่านมาฝากกันครับ ก่อนอื่นมารู้จักประเภทของการติดตั้งผ้าม่านกันก่อน

ประเภทการติดตั้งผ้าม่านแบบต่างๆ



ผ้าม่านแบบจีบ

ผ้าม่านแบบจีบ


ผ้าม่านแบบจีบนั้นจัดเป็นผ้าม่านที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเป็นผ้าม่านที่ดูสวยและคลาสสิคไม่มีเบื่อ โดยจะมีการจับจีบที่ด้านบนของตัวม่าน เว้นระยะห่างเท่าๆกัน สำหรับรางที่ใช้ก็สามารถใช้ได้หลายแบบ จะเป็นรางแบบโชว์ตัวราง หรือจะเป็นรางตัวซีก็ได้ ผ้าม่านแบบจีบนั้นสามารถติดตั้งได้กับบ้านทุกๆสไตล์มั่นใจได้เลยว่าหากติดตั้งแล้วไม่มีตกเทร์นดแน่นอน


ผ้าม่านแบบพับ


ผ้าม่านแบบพับ


ม่านแบบพับเป็นม่านที่มีลักษณะพับซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้นๆเวลาที่เราเปิดปิดผ้าม่าน โดยจะมีเชือกสำหรับดึงเปิดปิด ข้อดีของผ้าม่านแบบพับนั้นคือ เหมาะกับหน้าต่างหรือประตูที่เน้นในแนวตั้ง ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเวลาดึงม่านขึ้น แต่ข้อเสียคือใช้ผ้าในการตัดเย็บเยอะ ทำให้ราคาในการตัดเย็บจะแพงกว่าม่านแบบอื่นๆ ม่านแบบพับนั้นเหมาะสำหรับคนที่ชอบความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร


ผ้าม่านแบบตาไก่


ผ้าม่านแบบตาไก่


ม่านแบบติดตาไก่นั้น เป็นม่านที่ติดตั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก ลักษณะจะมีตาไก่แบบเป็นห่วงเย็บติดกับตัวผ้าไว้ทั้ง 2 ด้าน และแขวนไว้บนรางแบบโชว์ตัวราง เวลาเปิดปิดก็ใช้มือหรือติดตั้งไม้ลากลากเปิดปิดผ้าม่านได้เลย การเลือกผ้าสำหรับม่านแบบตาไก่นั้นควรเลือกผ้าที่มีน้ำหนักสักหน่อย เพื่อให้ผ้าม่านทิ้งตัวลงมาสวยงาม แต่ก็ไม่ควรหนักมากจนเกินไป ราคาค่าติดตั้งก็จะถูกกว่าการติดตั้งแบบอื่นๆเพราะใช้อุปกรณ์ในการติดตั้งไม่มากนัก


ผ้าม่านแบบคอกระเช้า


ผ้าม่านแบบคอกระเช้า


ม่านแบบคอกระเช้าจัดเป็นผ้าม่านแบบเบสิกสุด สามารถเย็บและติดตั้งได้เองง่ายๆ โดยอุปกรณ์หลักๆที่ใช้ก็จะมีผ้ากับรางผ้าม่านเท่านั้น โดยการทำนั้นก็แค่ไปหาซื้อผ้ามาเย็บหัวท้ายแบบง่ายๆ และใช้กระดุมสำหรับยึดติดกับตัวราง หรือไม่ก็สอดเส้นลวดที่มีพลาสติกหุ้มทำเป็นรางผ้าม่านอย่างง่ายก็ได้ ผ้าม่านแบบคอกระเช้านี้เหมาะกับคนที่ชอบประดิษฐ์ประดอย ชอบทำของใช้ภายในบ้านเอง หรือเรียกว่า ผ้าม่านแบบ DIY ก็ได้


ผ้าม่านแบบหลุยส์


ผ้าม่านแบบหลุยส์


เป็นผ้าม่านที่ดูดี ไฮโซ หรูหรา และมีราคาแพงมากที่สุด เนื่องจากผ้าที่ใช้ทำก็จะเป็นผ้าลายหลุยส์ซึ่งจะมีราคาแพงกว่าผ้าทั่วไป และการตัดเย็บที่มึความซับซ้อน และมีลูกเล่นต่างๆมากมาย เหมาะกับการสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้ดูยิ่งใหญ่ ตระการตา ดูน่าเกรงขาม แต่ผ้าม่านลายหลุยส์นั้นมักจะอมฝุ่น ดูแลรักษายาก และมีน้ำหนักมาก การจะถอดเข้าถอดออกก็จะดูลำบากสักหน่อย แต่ก็อย่างว่าครับ อยากให้บ้านดูหรูหรา มีระดับก็ต้องแลกกับข้อเสียตรงนี้ แต่เรื่องนี้คงไม่น่ากังวลเท่าไร เพราะยังไงซะเจ้าของบ้านก็คงไม่ได้ซักผ้าม่านเองอยู่แล้ว จริงมั๊ยครับ


ผ้าม่านแบบม้วน


ผ้าม่านแบบม้วน


ม่านแบบม้วนเป็นม่านที่ติดตั้งง่าย ลักษณะเวลาดึงก็จะม้วนขึ้นไปด้านบน เพราะฉะนั้นจะเหมาะกับผ้าที่มีน้ำหนักและความหนาไม่มาก จุดเด่นของม่านแบบม้วนนี้คือสามารถปรับความสูงของตัวม่านได้ง่าย ใช้สร้างมิติสำหรับหน้าต่างหรือประตูที่เตี้ยได้เป็นอย่างดี วิธีทำก็แค่ติดผ้าม่านแบบม้วนให้สูงกว่าแนวหน้าต่างตามความสูงที่เราต้องการ แค่นี้ก็จะทำให้หน้าต่างดูสูงขึ้นไปเอง ทำให้ห้องดูไม่อึดอัด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสีของผ้าด้วย ถ้าอยากให้ห้องดูกว้าง สบายตาก็ใช้ผ้าสีอ่อน แต่ถ้าอยากให้ห้องดูอบอุ่นก็ใช้ผ้าสีโทนเอิร์ธจะช่วยได้มาก



การเลือกเนื้อผ้าสำหรับติดตั้งผ้าม่าน


     เนื้อผ้าสำหรับติดตั้งผ้าม่านนั้นจะแบ่งเป็น 3 แบบ ด้วยกัน โดยการเลือกผ้านั้นอาจจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจจะเลือกผสมผสานกันก็ได้ แล้วแต่ความชอบและคุณสมบัติของผ้าม่านที่ต้องการ โดยเนื้อผ้าจะมีดังต่อไปนี้


เนื้อผ้าม่านแบบโปร่ง(Sheer)

เป็นผ้าที่มีเนื้อบาง เบา โปร่ง ทำจากโพลีเอสเตอร์ 100% ทำให้แสงสามารถลอดเข้ามาภายในตัวบ้านได้ เหมาะกับคนที่ชอบให้บ้านสว่างๆ บางครั้งจะใช้ผสมกับผ้าแบบทึบแสง(Black Out)

เนื้อผ้าม่านแบบทึบแสง(Black Out)

เป็นผ้าที่มีความหนา ป้องกันความร้อน แสงแดด สะท้อนแสงได้เป็นอย่างดี เหมาะกับห้องที่ไม่ต้องการให้แสงลอดเข้ามา สามารถกันแสงได้ 100% มักจะใช้ติดตั้งในห้องนอน ห้องโฮมเธียร์เตอร์  เนื้อผ้า Black Out จะเป็นการผสมผสานระหว่างผ้าโพลีเอสเตอร์ และผ้าใยสังเคราะห์ ปัจจุบันคนนิยมติดตั้งผ้า Black Out แบบนี้มาก แต่ก็จะมีราคาแพงกว่าผ้าแบบอื่นๆด้วย

เนื้อผ้าแบบแสงผ่านได้บ้าง (Dim Out)

เป็นผ้าที่ยอมให้แสงลอดผ่านได้บ้าง แต่ก็จะมีการเคลือบสารสำหรับป้องกันแสงแดดได้ด้วย ทำให้ผ้าไม่ซีดจากการโดนแสงแดดง่ายๆ ปัจจุบันคนเริ่มนิยมติดตั้งผ้าแบบนี้มากขึ้น


     การเลือกผ้าม่านเพื่อติดตั้งหรือตกแต่งบ้านของเรานั้น ราคาจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับตัวผ้าเป็นหลัก หากเราเลือกผ้าที่หนาและมีการถักทอ หรือมีลวดลายที่ละเอียด ก็ย่อมมีราคาแพงมากกว่า แบบผ้าแบบธรรมดา ส่วนเรื่องอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราง เชือก ด้ามจูงม่านนั้น ก็จะเป็นองค์ประกอบรองๆซึ่งไม่ค่อยมีผลต่อราคามากเท่าไร ที่เหลือก็จะเป็นค่าแรงและค่าติดตั้ง ซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับประเภทของการติดตั้งผ้าม่านเป็นหลัก ถ้าอยากติดตั้งผ้าม่านแบบประหยัดนั้น แนะนำให้เราไปหาซื้อผ้ามาเอง แล้วจ้างให้ร้านติดตั้งผ้าม่านติดตั้งให้ ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ โดยค่าติดตั้งผ้าม่านนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 - 5,000 บาท ลองสอบถามร้านหรือบริษัทรับติดตั้งกันดู หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเจ้าของบ้านทุกๆคนนะครับ

Share on Google Plus

About Untitle

บล็อกบทความสุขภาพ และความสวยความงาม สูตรหน้าใส รักษาสิว อาหารลดน้ำหนัก สูตรผิวขาว อาหารเสริม ขายเห็ดถั่งเช่าสีทอง 100% เชียงใหม่ฟาร์ม

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น