การซื้อคอนโดนั้นจัดว่ามีปัญหาและความเสี่ยงมากกว่าการซื้อบ้านแบบทั่วไปมากนัก เนื่องจากว่าคอนโดส่วนใหญ่นั้นจะมีการเสนอขายก่อนที่จะมีการสร้างเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของผู้ประกอบการ โดยจะมีการเปิดให้จองไปสักระยะก่อน พอมียอดจองตามที่ทางบริษัทกำหนดจึงค่อยเริ่มก่อสร้าง ซึ่งเราในฐานะผู้ซื้อก็ต้องจ่ายเงินจองไปก่อนทั้งที่ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ห้องคอนโดตามที่ต้องการหรือตามที่โครงการเสนอขายหรือไม่ วันนี้ Homeenrich มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปัญหาและความเสี่ยงสำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อคอนโดดีดีสักห้อง เผื่อใช้ดูเป็นแนวทางป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ปัญหาผู้ประกอบการไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
เป็นปัญหาที่ไม่ควรเกิดขึ้นแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี มีคอนโดหลายๆโครงการที่มีปัญหาในลักษณะนี้ บางโครงการอาจจะรีบขายห้องชุดให้กับเราเพื่อเร่งระดมเงินทุน โดยที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร หรือไม่มีการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีผลทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่เราจองไว้มาเป็นของเราได้ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรขอดูเอกสารทั้ง 2 ตัวนี้ให้ดีซะก่อน เพื่อความอุ่นใจ
ปัญหาโครงการยังทำเรื่องกู้เงินกับธนาคารไม่ผ่าน
โดยปกติปัญหาเรื่องกู้เงินไม่ผ่านนั้นไม่ค่อยเกิดกับบริษัทใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบริษัทเล็กๆที่อาจจะมีเงินทุนไม่หนาพอ ยังกู้เงินไม่ผ่านแต่ก็มาเปิดขายเอาเงินจองเราไป พอถึงเวลาธนาคารไม่อนุมัติเงิน คอนโดก็ไม่ได้สร้าง สุดท้ายผู้ขายก็หนีหายเข้ากลีบเมฆไปพร้อมกับเงินจองของเรา เพราะฉะนั้นก่อนที่จะซื้อคอนโดควรตรวจสอบบริษัทที่ขายโครงการว่าน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด จะให้ดีก็ควรเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ดีที่สุด
ปัญหาได้พื้นที่ห้องชุดไม่ตรงกับที่ระบุไว้ตอนแรก
ปัญหานี้ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ โดยในตอนแรกก่อนซื้อก็มีการระบุพื้นที่ห้องไว้เท่านี้ แต่พอมาตรวจห้องเพื่อรับโอนกลับพบว่าพื้นที่น้อยกว่าที่ตกลงกันไว้ ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุการนี้เราสามารถที่จะไม่ซื้อห้องชุดนั้นๆได้ แต่มีเงื่อนไขว่าพื้นที่ที่ขาดไปนั้นต้องน้อยกว่า 5% ของขนาดพื้นที่ที่ระบุไว้ตอนแรก แต่ถ้าทางเจ้าของโครงการไม่ยอม เราสามารถไปฟ้องร้องกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ได้ ให้เค้าจัดการให้เรา
ปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดินไม่เป็นของเรา
บางครั้งเจ้าของโครงการอาจไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินของโครงการคอนโดนั้น แต่ใช้การเช่าที่ดินเพื่อทำโครงการแทน โดยคิดค่าเช่าเหมาในช่วงเวลาทั้งหมดเป็นราคาต่อตารางเมตร แทนการคิดค่าเช่าเป็นรายเดือน พอมีการโอนกรรมสิทธิ์ของห้องชุดก็กลายเป็นว่าเราไม่มีสิทธิ์ในที่ดินของห้องชุดที่เราซื้อ กลายเป็นว่าเราเช่าที่ดินตรงนั้นแทน ซึ่งเมื่อหมดสัญญาการเช่า เราก็ต้องมาเซ็นสัญญาการเช่าใหม่ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อคอนโดเราควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่า เจ้าจองโครงการนั้นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือไม่ เพื่อลดปัญหาที่จะตามมาในอนาคต
ปัญหาห้องไม่เรียบร้อย
เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้เสมอ เช่น พื้นไม่เรียบร้อย น้ำรั่วซึม ผนังมีรอยร้าว ซึ่งถ้าเราตรวจห้องแล้วพบปัญหาเหล่านี้เข้า ถึงแม้จะเป็นเรื่องๆเล็กๆน้อย แต่ถ้าเราไม่พอใจเราสามารถสั่งให้ทางโครงการแก้ไขให้แล้วเสร็จจนกว่าเราจะพอใจได้ จากนั้นค่อยเซ็นต์รับจ่ายเงินในส่วนที่เหลือ เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้ห้องชุดที่ดีไม่มีปัญหาตามมาในวันหน้า
อย่างที่บอกไปว่าการซื้อคอนโดนั้นมีความเสี่ยงสูง และมีปัญที่อาจจะเกิดขึ้นได้มากมาย การทีผู้ซื้ออย่างเรารู้ปัญหาก่อนที่จะเกิด ย่อมช่วยลดความเสี่ยงจากการซื้อคอนโดได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เราได้คอนโดที่ตรงความต้องการ และไม่ต้องเสียเงินค่าจองไปแบบฟรีๆอีกด้วย
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น